วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2559

แอ่น แอน  แอ๊น!!!  เอาล่ะครับ วันนี้ได้ฤกษ์งามยามดี ที่กระผมจะมาเล่าแจ้งแถลงขัยเรื่องพระปิดตาของหลวงปู่กลิ่นวัดสะพานสูง ให้ทุกท่านได้ทราบตามที่เคยได้สัญญิงสัญญากันไว้เมื่อนานนมมาแล้ว (ฮิ ฮิ นานมากกกก  รอกันจนเหงือกแห้งเลยหรือเปล่าครับนี่ อิ อิ)

ที่เริ่มเขียนกัน ณ.วันนี้(13-มีนาคม-2559)ก็เพราะเผอิญว่ามีตัวช่วยเข้ามาพอดี๊...พอดี ที่จริงตัวช่วยที่ว่าน่าจะมีมาก่อนหน้านี้แล้วแต่ข้าพระเจ้าฯ (สำนวนโบราณมากเลย..เน๊าะ)เพิ่งทราบมาในวันนี้เอง(แบบข้อมูลชอบมาช้าน่ะ อย่าได้ถือสา) เรื่องของเรื่องก็คือ ขณะนี้พระปิดตา หลวงปู่กลิ่น พิมพ์เข่ากว้าง(จะสองจุด สี่จุดอะไรก็แล้วแต่) นั้นกรรมการสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ไม่รับรองว่าเป็นพระแท้อีกต่อไปแล้ว (เซียนสายตรงวัดสะพานสูงหลายรายกำลังเต้นกันใหญ่ ยิ่งกว่า step up ภาค 1-2-3 รวมกันซะอีก) กระท้อนหวานเองไม่แน่ใจเรื่องราวในรายละเอียด แต่ที่บอกได้คือเรื่องนี้สะกิดต่อมฟีโรโมนของกระท้อนหวานเข้าพอดี ถึงจะไม่สอดคล้องกันร้อยเปอร์เซ็นต์เป๊ะๆก็ตาม คืออย่างนี้ครับ(ไม่อ้อมค้อมเลยนะ)...เท่าที่เคยพิจารณาพระปิดตาสายวัดสะพานสูงผ่านมาบ้างในความเห็นของข้าพระเจ้าฯนั้น พระพิมพ์ชลูดเข่ากว้างนั้นอายุอานามยังไม่ถึงยุคของหลวงปู่กลิ่น ได้เต็มที่ก็ได้เป็นลูกศิษย์คือหลวงพ่อทองสุข หรือบางท่านจะเรียกว่า"หลวงปู่สุข" ก็ตามแต่ใจท่านเถิด ส่วนจะว่าเก๊เสียทั้งสิ้นเลยก็หาควรเป็นเช่นนั้นไม่(แหม ๆ ๆ....สำนวนลิเกอีกเช่นเคย) เพราะเท่าที่ผ่านสายตามาบ้างนั้นกระท้อนหวานเองก็ดูว่าเป็นพระแท้นะครับ (สำหรับองค์ที่แท้ ตรงนี้งงไม้ครับนี่ เดี๋ยวจะอธิบายต่อ..ต้องอ่านต่อไปครับ ฮิๆ หลอกให้อ่านซะให้เข็ด) แต่ได้แค่ยุคหลวงพ่อทองสุข เรื่องนี้นั้นอึดอัดอยู่ในใจของข้าพระเจ้าฯมาน๊าน..นาน ก็ ณ.วันนี้แหละครับที่ได้พูดออกปากบ้าง  (เฮ้ว!! ชักรู้สึกโล่งใจแล้วแฮะ!!) ดังนั้นที่ทิ้งท้ายไว้ในบล็อกของเรื่องพระปิดตาหลวงปู่เอี่ยมนั้น(บล็อกแรก)  ขอขยับขยายให้เข้าที่กันตามจริงก็คือ พระปิดตาของหลวงปู่กลิ่นวัดสะพานสูงนั้นมีการยัดเอาของลูกศิษย์ข้ามมาเป็นอาจารย์อย่างอึกทึกครึกโครมมานานแล้ว กำรี้กำไรกันไปอย่างป่นปี้ (ก็..คนซื้อป่นปี้ไงครับ)..ท่วมท้นอักโข (แหมปรนเปรอกิ๊กกันเพลินเลยสิท่า เอ๊ะ!!! เรื่องนี้เกี่ยวกันไม้นี่!!! ชักจะออกมหาสมุทรอินเดียไปซะอีกแล้ว ) และเป็นเหตุใหญ่ใจความที่ทำให้ผู้ศรัทธาส่วนมากต้องมานั่งน้ำตาตกในกันณ.ขณะนี้นั่นเอง (ซื้อจากเซียนกันมาก็ต้องหลายๆหมื่น สมาคมดันมาตีเก๊ซะแล้ว บร๊ะเจ้า  ทำไมท่านโหดร้ายกับหนูอย่างนี้น๊ะ!@#!?) เช่าหากันมาแบบผิดอาจารย์ผิดตัวเลขค่านิยม ส่วนเรื่องพระเก๊นั้นเล่า ก็นับได้ว่าไม่น้อยหน้ากันเลยทีเดียว ก็คือมีการส่งสำเนา ก็อปปี้ หลากหลายระดับฝีมือเข้ามายิงประตูในสนามพระอย่างนับไม่ถ้วน ผู้ที่รู้ไม่เท่าหรืองมงายก็โดนกันเข้าไป   แต่เรื่องที่กระท้อนหวานขำๆอยู่นิดนึง ก็คือพระเก๊เหล่านั้นกลับไปลอกเลียนแบบพระของหลวงพ่อทองสุข พิมพ์ชลูดเข่ากว้าง อย่างที่ว่าแล้วเอามาขายเป็นพระปิดตาหลวงปู่กลิ่นไงครับ คือทำเก๊ก็เก๊ผิดอาจารย์ คนเช่าของเก๊ก็เช่าแบบเข้าใจอาจารย์ผิดเช่นกัน เรียกว่าโดนแจ็คพ็อตไปสองชั้นสองเด้งแบบเหนือระดับ...เรื่องนี้มันช่าง...โอล่ะพ่อจริงๆเล้ย ท่านที่อ่านเรื่องราวมา ณ.ตรงนี้ยังไม่ต้องเชื่อผู้เขียนก็ได้

 

แล้วเราจะไปทางไหนต่อดี อืมม์...อืมม์...เอาอย่างนี้ครับ กระท้อนหวานจะไม่พูดมากแต่ขอให้ท่านลองหาตำรา พระปิดตา 3 เกจิ วัดสะพานสูง ของ อ.นพ ท่าพระจันทร์ มาลองอ่านรายละเอียดดู (คุณพ่อของอาจารย์นพ ท่าพระจันทร์เป็นคนพื้นเพแถบปากเกร็ดนั่นแหละครับ) หนังสืออาจจะหายากหน่อยเพราะเป็นหนังสือเก่าเมื่อหลายปีก่อน  

เอาล่ะครับ...เรามาลองเปรียบเทียบอะไรต่ออะไรดูเล่นๆสักหน่อยดีกว่า ...จงดูภาพสองภาพด้านล่างนี้

 

องค์นี้ที่บรรดาเซียนเล่น(ยัดให้) เป็นหลวงปู่กลิ่น (ชลูด เข่ากว้าง สองจุด นิยมสุดๆเลยเมื่อก่อนน่ะนะ)

 

 องค์นี้เห็นสะดือจุ่น โดดเด่นเช่นนี้ก็ต้องหลวงพ่อทองสุขน่ะสิครับ

จากสองภาพด้านบนท่านผู้อ่านที่รักทุกท่านคิดว่าอายุของพระทั้งสององค์อายุอานามของพระทั้งสององค์แตกต่างกันอย่างไรบ้าง สำหรับท่านที่ดู"รัก"ได้ น่าจะเปรียบเทียบกันได้สะดวกหน่อยน่ะครับ 

   และมีอีกประเด็นที่กระท้อนหวานกระสันจะทิ้งให้คาใจท่านก็คือ ให้ลองสังเกตโดยละเอียดว่าท่านจะพบอะไรที่เป็นจุดสังเกตุที่ช่างแกะพิมพ์ตั้งใจทิ้งไว้ให้ดูบ้างนะ ลองดูดีๆครับ (บอกแค่นี้แหละ...ว่าไปต่อละ) ท่านต้องพึ่งพาตนเองเป็นหลักนะครับ ถ้าพบเห็นอะไรแล้วบอกกันทางอีเมล์ได้นะครับ ^ ^

สำหรับประเด็นของก๊อปปี้ นั้นสิ่งสำคัญที่ควรอรรถาธิบายถึงก็คือ เนื่องจากผู้นิยมพระปิดตาหลวงปู่กลิ่นบางท่าน(ส่วนใหญ่ ซะด้วย)นั้นมีความเข้าใจแต่ต้นว่าพระปิดตาของหลวงพ่อทองสุขนั้นเป็นของหลวงปู่กลิ่น เวลาเจอของเก๊ที่ฉกาจหรือพอมีอายุอยู่บ้างก็จะโดนทุบเข้า เนื่องจากไม่ได้ทราบว่าพระปิดตายุคของหลวงปู่กลิ่นนั้นมีลักษณะพิมพ์ทรง ความเก่า-อายุ ที่แท้นั้นเป็นเช่นไร (จึงเป็นเหตุให้กระท้อนหวานจึงนำภาพพระปิดตาสององค์ด้านบนมาลงไว้ให้ลองพิจารณาไงครับ) เนื้อหาอยู่ในลักษณะไหน รักทีลงไว้(หากได้ลงรักมา) พอผ่านกาลเวลามาสัก 60-70 ปีต้องมีความแห้งตัวตามอายุแล้วต้องเป็นแบบไหน  พอเรื่องเป็นเช่นนี้มันก็เลย คล้ายกับว่าของเก๊นั้น มันเฉียบขาด แนบเนียนเสียเต็มประดาอย่างที่เรียกว่า"เก๊สะบัด" "เก๊สะบั้น" "เก๊หลุดโลก" "เก๊แหลก" "เก๊สุดขั้ว" บลาๆๆ ก็เพราะเรายังไม่ทราบกันนั่นเอง ว่า อืมม์....อ๋อ พระปิดตาหลวงปู่กลิ่นนั้นมีอายุสัก 70 ปีแล้ว(เป็นอย่างต่ำๆเลย)  ท่านก็ต้องเก่าอย่างนั้น แห้งอย่างนี้ พอไปโดนมากับของเทียมอย่างที่ว่านี้เข้ามันก็ต้องมาเจ็บใจภายหลัง แต่ถ้าใครได้ของแท้ของหลวงพ่อทองสุขมาก็ยังพอปลอบใจตัวเองได้บ้าง(หรือเปล่าน๊ะ??) ว่าก็ยังดีไม่โดนเก๊ ถึงค่านิยมจะห่าาา.................าาาางกัน   ม๊าก...มาก 

เอาละกระท้อนหวานขอส่งท้ายในประเด็นที่ทึกทักเอาเองว่าจะเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านที่รักอยู่บ้าง เรื่องข้อมูลของพระปิดตา ของหลวงปู่กลิ่น แห่งวัดสะพานสูง ดังนี้

1. พระปิดตาของหลวงปู่กลิ่น นั้นเป็นพระหายากมากประเภทหนึ่งของวงการเลยทีเดียวสำหรับองค์ที่ใช่จริงๆน่ะนะ ถึงแม้ท่านจะครองวัดอยู่ถึง 52 ปี (2438 ถึง 2490) แต่พระปิดตาของท่านกลับมีให้เห็นน้อยกว่าที่เราคิดหรือเชื่อกันมาก

2. ลักษณะกายวิภาค(Anatomy) ของพระปิดตาของหลวงปู่ทั้ง 3 รูป มีความแตกต่างกัน หลวงปู่กลิ่นท่านสร้างพระปิดตาไว้โดยแม่พิมพ์ที่มีเอกลักษณ์ของท่านเอง ถ้าใครหาตำราเจอให้จดจำพิมพ์หลักให้แม่นที่สุด ท่านจะปลอดภัยไร้มลทินเวลาเช่าหา(ซื้อ)

3. ส่วนประสมเนื้อพระของหลวงปู่กลิ่น แบ่งได้สองลักษณะใหญ่ๆ คือ โซนที่ใกล้เคียงกับเนื้อพระของหลวงปู่เอี่ยม ซึ่งคงเป็นยุคต้นๆของท่าน กับโซนเนื้อผงพุทธคุณผสมน้ำมัน(ในตำราเรียกว่าผงน้ำมันดิบ) แต่ทั้งสองโซนนั้นต่างจาก เนื้อพระของหลวงพ่อทองสุขอย่างสังเกตเห็นได้ สำหรับเนื้อผงพุทธคุณนั้นนับเป็นเอกลักษณ์พิเศษที่งดงามมากและไม่สามารถพบในพระเครื่องของเกจิท่านอื่นๆเลย ยกเว้นจะคล้ายๆกับอาจารย์ท่านหนึ่งในแถบลุ่มเจ้าพระยา(ตรงนี้ปล่อยไว้ให้งงอีกเช่นเคยซะเลย 5 5 5....{เอ เรามันโรคจิตรึเปล่า(ว๊ะ)นี่}) 

4. ความเก่า แหมตรงนี้มันพูดยาก ต้องหาอาศัยความช่างสังเกตพนิจพิจารณาครับ อธิบายได้ลำบาก แต่ถ้าพอจับรายละเอียดได้ คราวนี้ท่านจะดูพระอะไรก็สะดวกพหลโยธินไปหมดเลยครับ สำหรับพระเก่าๆยิ่งผ่านฉลุย แต่ต้องไม่ลืมเสมอครับว่า ดูพระต้องเริ่มจากพิมพ์ทรงก่อน เนื้อหาตามมาติดๆและสุดท้ายซึ่งสำคัญไม่แพ้กันคือธรรมชาติของพระ ถ้าเป็นพระเก่าก็ต้องมีความเก่าให้เห็นครับ แต่ต้องระวังอย่าดูแต่ความเก่าอย่างเดียวก็เพราะว่า พระบางประเภท..เช่นพระสมเด็จฯนี่เขาเก๊กันมานมนานแล้วตั้งแต่รุ่นเจ้าคุณปู่..นู่น ถ้าเล่นดูแต่เนื้อเก่า เนื้อจัด ไม่อ้างอิงพิมพ์นี่ท่านมีสิทธิ์โดนเข้าเต็มๆตีนจริงๆ ผมบ่ได้อู้เล่นก้ะ 

5. ถ้าท่านอยากได้วัตถุมงคลของหลวงปู่กลิ่นไว้บูชาจริงๆ แต่ไม่สามารถหาพระปิดตาของท่านได้ ลองพิจารณาตะกรุดของท่านดูครับ ทุกวันนี้ยังพอหาได้สะดวกกว่าพระปิดตาของท่านเป็นไหนๆหลายเท่าตัว ทั้งยังได้รับการยอมรับนับถือกันทั่วสยามประเทศว่าพุทธคุณนั้นเป็นเลิศทุกทาง วางใจได้สนิททีเดียว

เป็นไงบ้างครับอ่านจบแล้ว ไม่แน่ใจว่ากินใจผู้อ่านของกระท้อนหวานบ้างหรือไม่ ถ้ามีโอกาสจะนำเสนอเรื่องราวอื่นๆสู่สายตาของทุกท่านต่อไป  ตราบเท่าที่จะมีโอกาสอำนวยนะครับ ตอนนี้มีเรื่องอยู่ในใจ 2-3 เรื่องน่ะครับ แต่ ณ.เวลานี้ขอกล่าวคำว่า ...สวัสดีครับ